วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ไอดอลชายไทย ตอน "เรื่องราวผ่านภาพถ่ายของ คีธ ธีระกุลชัย"


Thai Idol ในวันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวผ่านภาพถ่ายของ ‘คีธ ธีระกุลชัย’ ช่างภาพฟรีแลนซ์หนุ่มสุดหล่อลูกครึ่ง ไทย-อเมริกัน ที่มีผลงานไม่ธรรมดาอย่างภาพนิ่งอาหารในแม็กกาซีนดัง ถ่ายรายการทีวีโฆษณาต่างๆ หรือภาพ Portrait และ Event ตามโรงแรมห้าดาว ทว่าก่อนที่คีธจะมาถึงจุดนี้ได้เขาต้องผ่านอุปสรรคและวิธีคิดมากมาย รับรองว่าบทสัมภาษณ์นี้ต้องเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนที่ฝันจะเป็นช่างภาพแบบคีธแน่ ไปชมกันเลยค่ะ


งานที่ผ่านมามีอะไรบ้าง
“ผมเป็นฟรีแลนซ์ถ่ายภาพนิ่งกับวิดิโอ ถ่ายตั้งแต่รายการทีวีโฆษณา ถ่ายโปรดักให้กับนิตยสาร รูปอาหาร เมนู portrait และอีเวนท์ครับ”
เป็นช่างกล้องแนวนี้มาก่อนหรือเปล่า
“ผมทำฟรีแลนซ์วิดิโอก่อนเข้ามหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ทำไปเรื่อยๆ จนเรียนจบก็มาเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัว การได้ถ่ายภาพนิ่งเป็นเรื่องบังเอิญ ตอนนั้นใกล้เรียนจบ อยากจะได้เงินแล้วมีพี่คนหนึ่งมาบอกว่ากำลังรับสมัครช่างภาพถ่ายในผับ ก็เลยลองไปทำมาสามเดือน หลังจากนั้นก็มีคนเปิดโอกาสอีกให้ไปถ่ายที่โรงแรมห้าดาวชื่อ W Bangkok ซึ่งนับว่าการได้ทำงานที่ W Bangkok เป็นตัวเปิดโอกาสให้เราสร้าง Portfolio ที่ดีได้”


จุดเริ่มต้นการถ่ายภาพอาหาร
“พอเราได้งานที่ W Bangkok เราก็มีโอกาสได้ไปถ่าย JW Marriot, Banyan Tree, ฟลุ๊คได้งานของ Emirates เข้ามาบ้าง และได้เริ่มถ่ายรูปอาหารตอนไปถ่ายให้นิตยสาร Wonderlust พอได้ลองก็รู้สึกว่าชอบถ่ายอาหาร”
“ความจริงแล้วเราไม่คิดว่าเราเป็นช่างภาพ เราคิดว่าเราเป็นคนจัดภาพมากกว่า ใช้องค์ประกอบของ Subject, composition, แล้วก็ไฟ เล่นกับไฟเยอะ ชอบงานประดิษฐ์ ละเอียดอ่อน มันสนุกดี ที่ชอบภาพนิ่งกับฟีล์มเพราะเราชอบเล่าเรื่องผ่านภาพนิ่ง เสียงและสิ่งที่อยู่ข้างในภาพ”
งานท้าทายไหม
“ท้าทายมาก เพราะว่าเราต้องคำนึงถึงสิ่งที่สินค้ากำลังพรีเซ้น เช่นสินค้าจะต้องออกมาแนวไหน เราต้องเข้าใจสินค้าให้ดีพอ เข้าใจในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เราถือว่าโชคดีเพราะลูกค้าที่เราได้ซิงค์กับเรารู้เรื่อง ทำให้งานเราง่าย ส่วนเรื่องยากเรามองว่ามันเป็นอุปสรรคที่ทำให้เราสนุกกับมัน เหมือนโจทย์เลขที่ต้องแก้ พอแก้ได้แล้วก็รู้สึกสนุก”




งานยากท้อไหม
“ไม่เคยท้อ เพราะเราไม่เคยปฏิเสธงานที่คิดว่าเราทำไม่ได้ เพราะต่อให้เราคิดว่าเราทำได้ เราก็จะเสี่ยงทำ เราเป็นพวกที่ กูไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่กูก็จะเดินอยู่ดี เพราะความคิดแบบนี้แหละที่ทำให้เราอยู่ในจุดๆ นี้ได้ แต่ก็ยังไม่แฮปปี้พอนะ เราอยากไปไกลกว่านี้อีก”
ตั้งเป้าหมายไว้ว่ายังไง
“เป้าหมายของเราคือ ถ้าด้านภาพนิ่งเราอยากเห็นผลงานตัวเองอยู่ใน bill board ใหญ่ๆ ตรงทางด่วน อยากทำงานให้บริษัทนิตยสารดังๆ ระดับโลก พวก Cook Book ดังๆ และแม็กกาซีนแฟชั่น”
งานอดิเรกนอกจากชอบถ่ายรูปแล้วคีธชอบทำอะไร
“(หัวเราะ) ถ่ายรูปไม่ใช่งานอดิเรก เราแตะกล้องเวลาเราทำงานเท่านั้น เวลาเราไปเที่ยวเราชอบไปเอนจอยประสบการณ์มากกว่า เราไม่ชอบเอากล้องออกมา กล้องมือถือยังไม่ถ่ายเยอะเท่าไหร่เลย อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้มองตัวเองเป็นช่างภาพ แต่มองว่าเป็นคนประดิษฐ์ภาพขึ้นมา”




ต้องรักการถ่ายภาพมากแค่ไหนถึงจะเป็นแบบคีธได้
“สำหรับเรา ตัวเราเองคำถามไม่ใช่รักขนาดไหน คำถามจริงๆ คือคุณพร้อมจะ Get out of your comfort zone (ออกจากหลุมสบาย) ขนาดไหน เพราะนั่นจะเป็นตัวเปิดโอกาสให้เรา เวลาคุณอยากจะออกจากกรอบของคุณอย่าบอกว่าตัวเองทำไม่ได้ เพราะตัวเราเอง (คีธ) ก็พลาดในงานมาเยอะ แต่โชคดีที่ลูกค้าและคนอื่นยังให้โอกาสเราอยู่”
โอกาสเป็นสิ่งสำคัญมาก
“พรรสวรรค์หาได้ทุกที่ แต่โอกาสหาไม่ได้ทุกที่ เท่ากับว่าเรามีแค่ความสามารถมันไม่เพียงพอ เราต้องหาโอกาสให้ได้”
ฝากผลงานให้ทุกคนติดตามงานขอคีธ
“มีเว็บไซต์ www.keithoscope.com หรือติดต่อคุยผ่าน Fanpage Keithoscope ครับ”

เป็นอย่างไรบ้างคะ หวังว่าการเดินทางผ่านภาพถ่ายของ ‘คีธ ธีระกุลชัย’ จะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คนได้นะคะ อ่านเสร็จแล้วเราก็ลุกออกไปจาก ‘Comfort Zone’ แล้วหาโอกาสใหม่ๆ กันดีกว่า! Thai Idol วันหน้าจะพาใครมาให้รู้จักนั้น อย่าลืมติดตามค่ะ!
อ่านเพิ่มเติม คลิก :: www.thaiidol.com
สงวนลิขสิทธิ์ห้ามเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก www.thaiidol.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก